พุทธศักราช 2475
บาทหลวงเอช การิเอ ได้ทำการเปิดโรงเรียน โดยใช้ชื่อว่า “โรงเรียนราษฎร์เซนต์ร็อค” เปิดสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2–4 โดยมีครูพิสิทธิ์ กิจเจริญ เป็นครูใหญ่คนแรก
พุทธศักราช 2485
โรงเรียนถูกสั่งปิดเนื่องจากเกิดสงครามอินโดจีน
พุทธศักราช 2488
ได้รับอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนอย่างเป็นทางการตามใบอนุญาต เลขที่ 2/2488 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 และเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนดาราสมุทร”
พุทธศักราช 2496
ขยายการศึกษาถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 7
พุทธศักราช 2503
สร้างอาคารเรียนเพิ่มขึ้นอีก 2 หลัง เป็นอาคารไม้ทรงปั้นหยา 2 ชั้น จำนวน 8 ห้องเรียน และขยายการศึกษาถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในช่วงต้นปีการศึกษา 2503 ได้มีภราดาคณะเซนต์คาเบรียลมาร่วมดำเนินการสอน
พุทธศักราช 2504
สร้างอาคารเรียนอีกหลังหนึ่ง เป็นเรือนไม้ทรงปั้นหยา 2 ชั้น มี 6 ห้องเรียน
พุทธศักราช 2506
คณะผู้บริหารโรงเรียนได้แยกนักเรียนหญิงกับนักเรียนชายโดยนักเรียนชายนั้นได้มอบหมายให้ภราดาคณะเซนต์คาเบรียล รับผิดชอบ และนักเรียนหญิง ได้มอบหมายให้อธิการโดวีโกและบราเดอร์ John May เป็นครูใหญ่
พุทธศักราช 2523
ได้ดำเนินการให้เป็นโรงเรียนของมิสซังคาทอลิกกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคล โดย ฯพณฯ พระสังฆราชยวง นิตโย เป็นผู้รับใบอนุญาตและได้มอบอำนาจให้ บาทหลวงเรอเนบริสซอง เป็นผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม
พุทธศักราช 2527
จัดงานชุมนุมศิษย์เก่า ในวันที่ 7 เมษายน นำรายได้สร้างสนามเด็กเล่น
พุทธศักราช 2528-2529
จัดงานประจำปี เพื่อนำรายได้มาจัดซื้ออุปกรณ์การสอนระดับก่อนประถมศึกษาและระดับประถมศึกษา โดยมีการแสดงละคร เรื่อง “น่านเจ้า”
พุทธศักราช 2530
เกิดเพลิงไหม้อาคารเรียน ซึ่งเป็นเรือนไม้ ทรงปั้นหยา 2 ชั้น จำนวน 8 ห้องเรียน ตั้งแต่เวลา 19.20–20.30 น. ความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 2,088,000 บาท จึงดัดแปลงวัดเก่าใช้เป็นห้องเรียนชั่วคราว หลังจากนั้นมีการสร้างอาคารเรียนแทนอาคารไม้ที่ถูกไฟไหม้ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียว 2 หลังๆละ 4 ห้องเรียน ขณะนั้นมีบาทหลวงวิทยา แก้วแหวน ดำรงตำแหน่ง ผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการ
พุทธศักราช 2532
ได้ทำการขอเปลี่ยนแปลงหลักสูตรก่อนประถมศึกษาจาก 2 ปี เป็นหลักสูตร 3 ปี โดยมีบาทหลวงเอกพงษ์ พงษ์สูงเนิน ดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการ
พุทธศักราช 2534
ฯพณฯ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้อนุญาตให้ย้ายอาคารเรียนมาสร้างในบริเวณเดียวกับวัด ในเนื้อที่ 80 ไร่ 2 งาน 64 ตารางวา จำนวน 2 หลัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น กว้าง 24 เมตร ยาว 56 เมตร มี 25 ห้องเรียนและอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้น กว้าง 24 เมตร ยาว 88 เมตร มี 33 ห้องเรียนและสร้างหอประชุม/โรงอาหาร อีก 2 หลัง
พุทธศักราช 2536
ขออนุญาตงดใช้อาคารเรียนหลังเก่าทั้งหมด เพื่อขอใช้อาคารเรียนหลังใหม่แทน ขออนุญาตย้ายสถานที่ตั้งโรงเรียน ขอขยายการศึกษาเพิ่มในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รวมทั้งขออนุญาตรับนักเรียนอายุตั้งแต่ 3 ปี บริบูรณ์ ขึ้นไปถึง 28 ปี ขออนุญาตเปลี่ยนแปลงระเบียบของโรงเรียน และทำพิธีเปิดเสกอาคารเรียน ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2536 โดย ฯพณฯ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ประมุขของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นมีบาทหลวง บุญเสริม เนื่องพลี ดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการ
พุทธศักราช 2537
จัดทำสนามเด็กเล่นสำหรับนักเรียนอนุบาล จัดงานศิษย์เก่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 ได้รับเงินบริจาคเป็นทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน จำนวน 477,287 บาท และเงินบริจาคซื้ออุปกรณ์การศึกษาเป็นจำนวน 43,220 บาท ต่อมาวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2537 คุณบัญชา คุณสุรัติ ภานุประภา ได้บริจาคสมทบทุนการศึกษาเพิ่มอีก 200,000 บาทได้นำดอกเบี้ยมาจัดเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในปีต่อๆ มา
พุทธศักราช 2538
ได้ทำการสร้างกรงนกขนาดใหญ่ในสนามเด็กเล่นแผนกอนุบาลโดย ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณพ่อประเสริฐ ตรรกเวศม์ ได้ทำการย้ายศาลาที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้านมาสร้างภายในบริเวณโรงเรียน อีกทั้งยังได้รับเงินบริจาคเป็นทุนการศึกษาเพิ่มอีก 222,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 688,287 บาท
พุทธศักราช 2539
ได้ทำการจัดสร้างห้องคอมพิวเตอร์จำนวน 2 ห้องเรียน มีเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน จำนวน 25 เครื่อง เครื่องครู 2 เครื่อง และเครื่อง server 2 เครื่อง รวม 27 เครื่อง และเปิดทำการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ให้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3
พุทธศักราช 2540
ทำการซ่อมบำรุงอาคารเรียน สร้างลานจอดรถสำหรับครู 2 หลัง สร้างห้องน้ำ ห้องสุขา นอกอาคารเรียนเพิ่มขึ้น อีก 20 ห้อง และที่นั่งใต้ต้นไม้หน้าอาคารเรียนประถม – มัธยม
พุทธศักราช 2541
ทำการสร้างสนามฟุตบอล สนามวอลเล่ย์บอล ห้องน้ำนอกอาคารเรียนอีก 2 หลัง สร้างหอทดสอบการกระโดดหอสำหรับการเข้าค่ายลูกเสือ–เนตรนารี บนที่ดินหลังอาคารเรียน อีกทั้งยังได้ทำการปรับปรุง ห้องธุรการ ห้องวิชาการ แยกเป็นสัดส่วน เพื่ออำนวยความสะดวก แก่บุคลากรและผู้ปกครองที่มาติดต่อกับโรงเรียน
พุทธศักราช 2542
ได้ทำการปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์โดยมีการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ เพิ่มเติมโปรแกรม CAI ระบบมัลติมีเดีย จำนวน 27 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์จอภาพ แป้นพิมพ์ เมาส์ CPU ด้วยงบประมาณ 929,000 บาท ซึ่งขณะนั้นมีบาทหลวงสมโภชน์ พูลโภคผล ดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการ
พุทธศักราช 2543
ได้ทำการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ภายในโรงเรียน ให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานภายในสถานศึกษาตามแผนงานต่างๆ เช่น ห้องธุรการ ห้องวิชาการ ห้องสมุด เป็นต้น อีกทั้งมีการเพิ่ม ห้องประชุมชั้น 2 จำนวน 2 ห้อง พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องปรับอากาศจำนวน 3 เครื่อง ติดผ้าม่านรอบห้อง จอภาพสำหรับฉายสไลด์ ระบบเครื่องเสียงและมีการปรับปรุงพัฒนาห้องสมุด
พุทธศักราช 2544
ได้ทำการสร้างสวนเกษตรขึ้น โดยจัดให้อยู่ใน “โครงการจาริกเกษตรสาธิตผักปลอด สารพิษ เศรษฐกิจชุมชน” โดยให้นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน ได้รับประโยชน์จากสวนเกษตรนี้และมุ่งเน้นให้นักเรียนได้ใช้ฝึกปฏิบัติจริง ในกิจกรรมการเรียนการสอน อีกทั้งได้จัดสร้างอาคารปฏิบัติการชมรมสำหรับนักเรียนและครูเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน แต่อยู่ในช่วงดำเนินการยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบ
พุทธศักราช 2545
บาทหลวงอนุชา ไชยเดช มาดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการ โรงเรียนดาราสมุทรและได้ทำการต่องานในเรื่องของการสร้างอาคารปฏิบัติการชมรม ที่อยู่ในช่วงของการดำเนินงาน จัดทำป้ายทางเข้าโรงเรียน จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์
พุทธศักราช 2546
ได้จัดตั้งคณะกรรมการตัวแทนผู้ปกครองและได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการ ตัวแทนผู้ปกครองในการจัดให้มีการเรียนการสอน เทควันโด ในโรงเรียน รวมทั้งการจัดสร้างสนามเปตอง จัดทำห้องเกียรติยศเพื่อเก็บรวบรวมประวัติ ทำเนียบผู้บริหารและผลงานของโรงเรียน จัดให้มีห้องการิเอ เพื่อใช้เป็นห้องรับรอง และห้องพักสำหรับคุณครู ย้ายนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1–2 ไปเรียนที่อาคารอนุบาลชั้น 3 เพื่อใช้อาคารเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด จัดทำห้องถ่ายเอกสาร มีการปรับพื้นที่บริเวณหลังอาคารเรียนประถม-มัธยม จากพื้นดินเปลี่ยนเป็นพื้นคอนกรีต เพื่อให้เด็กอ่านหนังสือและทำกิจกรรม จัดทำลานจอดรถสำหรับผู้ปกครอง ปรับพื้นที่สวนหย่อมรอบโรงอาหารโดยการปูตัวหนอน ทาสีรั้วรอบโรงเรียนและลูกกรงอาคารเรียน ปรับปรุงสวนหย่อมภายในบริเวณโรงเรียน จัดงานเชื่อมใจสายสัมพันธ์ครั้งที่ 2 โดยร่วมมือกับคณะผู้บริหาร ครู ผู้ปกครองและนักเรียน โดยนำผลที่ได้จากการจัดงานมาจัดซื้อโต๊ะแสตนเลสเพื่อให้นักเรียนนั่งรับประทานอาหาร
พุทธศักราช 2547
โรงเรียนได้ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนได้แสดงความสามารถในทุกๆ ด้าน ส่งผลให้โรงเรียนดาราสมุทร ได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมแข่งขันทักษะทางด้านวิชาการ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นจำนวนหลายรางวัลและโรงเรียนดาราสมุทรได้รับการประเมินคุณภาพภายนอก ในรอบแรก จากสำนักงานรับรองและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) โดยมอบหมายให้ บริษัท เอส เอ วิชั่น จำกัด เป็นผู้ประเมิน รวมทั้งโรงเรียนกำลังดำเนินการเพื่อเตรียมรองรับการประเมินด้านสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เพื่อขอรับพระราชทานรางวัล จากพระบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา การจัดทำห้องอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอีก 2 ห้อง เพื่อใช้ในการเรียนการสอน มีการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ภายในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพ จัดซื้อเครื่องโปรเจ็คเตอร์เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน และการจัดทำกิจกรรมสำหรับคุณครู จัดสร้างสวนผีเสื้อ เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการศึกษา วัฎจักรวงจรชีวิตของผีเสื้อ รวมทั้งได้มีการก่อตั้งชมรมศิษย์เก่าดาราสมุทร โดยได้รับความร่วมมือจากศิษย์เก่าในแต่ละรุ่นเป็นอย่างดี รวมถึงการเปิดโอกาสให้คณะกรรมการบริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการอำนวยการ ได้มีส่วนร่วมในการบริหารงานของโรงเรียน
พุทธศักราช 2548
โรงเรียนมีการพัฒนาบริเวณสถานที่ภายในโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สถานที่อย่างคุ้มค่า โดยคณะผู้บริหารได้มีการจัดสร้าง ทางเชื่อมระหว่างอาคารเรียนประถม-มัธยมและอนุบาล ภายในปีเดียวกันนี้ บาทหลวงอนุชา และ คณะผู้บริหาร คณะครู นักเรียน และชุมชนได้ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์แม่พระดาราสมุทร เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจครอบครัวดาราสมุทร ณ บริเวณหน้าหอประชุมโรงเรียนดาราสมุทร พร้อมทำพิธีเปิดเสกอนุสาวรีย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 22 สิงหาคม 2548 โดยพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัลไมเคิ้ลมีชัย กิจบุญชู และมีการนำระบบสารสนเทศมาใช้ในการรองรับการบริหารที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นในปีการศึกษา 2548 ยังมีการจัดการแข่งขัน เทควันโด ดาราสมุทรทัวร์นาเม้น ครั้งที่ 2 ขึ้นโดยได้รับความสนใจจากนักกีฬาเทควันโดยทั่วประเทศจำนวน 22 จังหวัด เข้าร่วมการแข่งขัน รวมไปถึงการออกไปแนะแนวการศึกษาต่อยังโรงเรียนใกล้เคียง เพื่อประชาสัมพันธ์โรงเรียน การจัดโครงการรักและรับใช้ เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้มีโอกาสรักและแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่น
พุทธศักราช 2549
บาทหลวงทนุ เจษฏาพงศ์ภักดี ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้แทนผู้รับใบอนุญาตแทนบาทหลวงอนุชา ไชยเดช และซิสเตอร์สุนีย์พร กตัญญู ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการโรงเรียนดาราสมุทร แทนซิสเตอร์ลำไพ เนื่องพลี เนื่องในวาระการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2550 – 2552 ได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน นอกจากนั้นยังปรับปรุงพื้นที่ว่างเปล่าของโรงเรียนให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า เช่น การทำนา การเลี้ยงปลา การทำสวนมะม่วงและสวนกล้วย เพื่อใช้เป็นแหล่งการเรียนรู้ธรรมชาติสำหรับนักเรียน
พุทธศักราช 2552
บาทหลวงวรวุฒิ กิจสกุล ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้แทนผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการ แทนบาทหลวงทนุ เจษฎาพงศ์ภักดี และซิสเตอร์อรวรรณ จันทร์ชลอ เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน แทน ซิสเตอร์สุนีย์พร กตัญญู เนื่องจากครบวาระการปฏิบัติหน้าที่ ได้พัฒนางานด้านลูกเสือ โดยจัดให้มีการอบรมลูกเสือสำรอง สามัญ และสามัญรุ่นใหญ่ ขั้นความรู้เบื้องต้น (B.T.C) และลูกเสือสำรอง สามัญ สามัญรุ่นใหญ่ ขั้นความรู้ชั้นสูง (A.T.C)
พุทธศักราช 2553
ซิสเตอร์มาลีรัตน์ บุญอนันตบุตร ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแทนซิสเตอร์อรวรรณ จันทร์ชลอ ที่ครบวาระการปฏิบัติหน้าที่ มีจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งหมด 65 คน จำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 2,225 คน เริ่มทำการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีรถร่วมบริการรับ-ส่งนักเรียนจำนวน 35 คัน ได้มีการปรับปรุงและพัฒนา ดังนี้
- ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโรงเรียนดังนี้ คือ สวนหย่อม สวนสมุนไพร ศาลาพักผ่อนหน้าอาคารเรียนและยังได้จัดทำลานจอดสำหรับผู้ปกครองและครู จัดสร้างห้องประชุมดาวดาราพระแม่มารีย์ชั้น 2 ของอาคารเรียน
- ปรับปรุงสนามบาสเก็ตบอล 2 สนามและสนามวอลเล่ย์บอล 2 สนามโดยทำหลังคาแสลม 3 ชั้นคลุมโดยรอบทั้ง 3 สนาม
- ได้สนับสนุนให้ครูได้มีการพัฒนางานวิจัย
- โรงเรียนได้ปรับปรุงห้องสมุดจนได้รับรางวัลห้องสมุดดีเด่น “โล่ทอง” ด้านกิจกรรมส่งเสริมการอ่านประจำปีการศึกษา 2553 จากฝ่ายการศึกษาอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ได้ทำการปรับปรุงห้องสมุดอนุบาล ให้มีสื่อที่เพียงพอและเหมาะสมกับวัยของเด็ก
พุทธศักราช 2554
ซิสเตอร์สุชาตรี กิจประเสริฐ ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแทนซิสเตอร์มาลีรัตน์ บุญอนันตบุตร มีจำนวนบุคลากรทั้งสิ้น 57 คน และจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 1,103 คน ในปีนี้โรงเรียนได้ทำการปรับปรุงสนามเด็กเล่นอนุบาล โดยซื้อเครื่องเล่นสนามสำหรับเด็กอนุบาลเพิ่มเติม และทำหลังคาสแลนคลุม ได้ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นให้นักเรียนได้ลงปฏิบัติจริงสนับสนุนพื้นที่ ในการจัดทำแปลงเกษตรสำหรับนักเรียน และบ่อเลี้ยงปลาสำหรับเป็นแหล่งศึกษา หาความรู้สำหรับนักเรียน จัดระบบสารสนเทศโดยมีโปรแกรมสำเร็จรูปดังต่อไปนี้คือ
- ระบบบันทึกเวลาเข้าออกเข้า – ออกสำหรับนักเรียน ครู และบุคคลกร
- ระบบห้องสมุด ทะเบียนหนังสือ วารสาร สื่อ บริการยืม–คืน บริการสืบค้น และการนับจำนวนผู้เข้ามาใช้ห้องสมุด
- ระบบสารสนเทศข้อมูลครู ทะเบียนประวัติส่วนตัวครู รูปถ่าย ข้อมูลนักเรียน ทะเบียนประวัติส่วนตัวนักเรียน รูปถ่าย
- ระบบงานปกครอง การบันทึกเกี่ยวกับพฤติกรรม ความประพฤติของนักเรียน รวมทั้งคุณลักษณะ ความสามารถพิเศษต่างๆ ของนักเรียน
- ระบบรายงานผลการเรียน แจ้งผลการเรียนภาคเรียนละ 2 ครั้ง เอกสารหลักฐานการศึกษาประกอบด้วย ปพ.2 ปพ.3 ปพ.6 และ ปพ.7 รวมทั้งเอกสารจบการศึกษาต่าง ๆ
- ระบบรายงานการชำระค่าธรรมเนียม พิมพ์ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ รายการรับชำระเงินประจำวันรายชื่อนักเรียนชำระเงิน – ค้างชำระเงิน สรุปยอดชำระเงินรายวัน
พุทธศักราช 2557
บาทหลวงพรชัย บรัศวกุล ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการ/ผู้อำนวยการ แทนบาทหลวงวรวุฒิ กิจสกุล และซิสเตอร์สุชาตรี กิจประเสริฐ เนื่องจากครบวาระการปฏิบัติหน้าที่ ได้มีการปรับปรุงระบบบัญชีโรงเรียนให้ทันสมัย สอดคล้องกับระบบบัญชีของฝ่ายการศึกษาฯ โดยมีการนำเช็คมาใช้ในการจ่ายเงินเข้า-ออกซึ่งทำให้ง่ายต่อการเบิกจ่ายเงิน และในปีเดียวกันได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการศึกษาจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านปฐมวัยและประถมศึกษา–มัธยมศึกษา (รอบที่ 3) ระดับดี
พุทธศักราช 2558
มีการปรับปรุงอาคารสถานที่
- ห้องคอมพิวเตอร์อาคารเรียนอนุบาลซึ่งได้มีการจัดสร้างไว้แล้ว โดยการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ จำนวน 35 เครื่อง เพื่อใช้ในการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 2
- ปรับปรุงห้องเรียนสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1–2 เพื่อใช้ในการเรียนการสอนและเพิ่มเติมห้องพักครูระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -2 ณ อาคารเรียนอนุบาล
- ปรับปรุงอาคารประกอบอาหารให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์พื้นฐานของงานสุขาภิบาลอาหารและสะดวกต่อการใช้สอย
- ปรับปรุงหลังคาสนามเด็กเล่นอนุบาลจากหลังคาสแลนกับผ้ายางพลาสติกซึ่งชำรุดบ่อยครั้งเป็นหลังคาเมทัลชีทให้มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อม
- เพิ่มเติมคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการสืบค้นข้อมูลภายในห้องสมุด โดยการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อ ให้นักเรียนใช้ในการค้นหาข้อมูล
พุทธศักราช 2559
มีการปรับปรุงสถานที่
- ก่อสร้างบ้านพัก 2 ชั้น สำหรับพนักงานวัดและพนักงานโรงเรียน และสร้างหลังคาคลุมหน้าบ้าน ต่อจากตัวตึกบ้านพักพนักงานออกมาซึ่งทำให้มีพื้นที่การใช้สอยเพิ่ม
- ปรับปรุงหลังคาสนามกีฬาเอนกประสงค์ตึกประถม-มัธยม จากหลังคาสแลนกับผ้ายางพลาสติก ซึ่งเป็นหลังคาเมทัลชีทให้มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น อีกทั้งยังมีการทาสีและปรับปรุงสนามกีฬา
พุทธศักราช 2561
จัดซื้อชุดคอมพิวเตอร์จำนวน 43 เครื่อง เป็นจำนวนเงิน 786,900 บาท ใช้สำหรับการเรียน การสอนในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 1 จำนวน 41 เครื่อง และใช้สำหรับการบริหารงานทั่วไปจำนวน 2 เครื่อง รวมถึงมีการเพิ่มเติมระบบเน็ตเวิร์คในห้องคอมพิวเตอร์ 2 อีกด้วย
พุทธศักราช 2562
สร้างหลังคาคลุมลานอเนกประสงค์และเวทีหน้าอาคารเรียน 4 ชั้น เพื่อใช้ประโยชน์ในการเข้าแถวเคารพธงชาติของนักเรียน หรือจัดกิจกรรมหรืองานต่างๆ อาทิ ประชุมนักเรียน ประชุมผู้ปกครอง โครงการหรือกิจกรรมตามโครงสร้างของโรงเรียน งานประจำปีของโรงเรียน งานบริการวัดและชุมชน เป็นต้น
พุทธศักราช 2563
สร้างบ้านพักครูสำหรับครูชาวต่างประเทศ 4 ห้อง เพื่อรองรองการเข้าพักอาศัยของครูชาวจีน และครูสอนภาษาอังกฤษ มีการปรับปรุงหลังคาโรงรถ และสร้างเตาเผาขยะ
พุทธศักราช 2564 (ปัจจุบัน)
บาทหลวงวิชชุกรณ์ เกตุภาพ ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้แทนผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการ/ผู้อำนวยการ แทนบาทหลวงพรชัย บรัศวกุล เนื่องจากครบวาระการปฏิบัติหน้าที่